Proof of Burn (PoB) คืออะไร

Proof of Burn (PoB) คืออะไร
Proof of Burn (PoB) คืออะไร
Proof of Burn (PoB) คืออะไร


Proof of Burn (PoB) คืออะไร

Proof of Burn (PoB) เป็นวิธีการในโลกของบล็อกเชนที่ใช้การทำลาย (burn) ส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ดิจิทัล (cryptocurrency) หรือทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ เป็นหลักฐานในกระบวนการตรวจสอบการทำธุรกรรมและการคำนวณค่า Proof of Burn เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับสิทธิ์ในระบบหรือเข้าร่วมกิจกรรมบล็อกเชนที่เกี่ยวข้องกับการทำลายสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านั้น

ขั้นตอนหลักใน Proof of Burn คือการส่งสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากการใช้งานโดยไม่สามารถกู้คืนได้ (burn) โดยการส่งไปยังที่อยู่ที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือการที่จะไม่สามารถใช้งานได้อีก การทำลายสินทรัพย์นี้ทำให้สินทรัพย์นั้นหายไปจากการใช้งานและไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ ในแง่ที่สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกทำลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Proof of Burn มีมูลค่ามากกว่าส่วนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยการขุดแร่ ระบบนี้จึงสร้างความยากลำบากในการใช้งานและส่งเสริมให้ผู้ใช้งานสนใจในการทำลายสินทรัพย์เพื่อรับสิทธิ์ในระบบหรือโครงการบล็อกเชนที่เกี่ยวข้องกับ Proof of Burn นั้น

หลายโครงการบล็อกเชนใช้ Proof of Burn เป็นวิธีการสร้างความน่าสนใจและสร้างความนับถือในระบบของพวกเขา อย่างไรก็ตาม PoB ไม่ได้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์และอาจมีความซับซ้อนในการดำเนินการเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ เช่น Proof of Stake (PoS) หรือ Proof of Work (PoW) ซึ่งใช้พลังงานมากกว่าในกระบวนการตรวจสอบและการทำลายสินทรัพย์เหล่านั้น

การทำงานของ Proof of Burn

Proof of Burn (PoB) เป็นวิธีการในโลกของบล็อกเชนที่ใช้การทำลาย (burn) ส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ดิจิทัล (cryptocurrency) หรือทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ เป็นหลักฐานในกระบวนการตรวจสอบการทำธุรกรรมและการคำนวณค่า Proof of Burn เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับสิทธิ์ในระบบหรือเข้าร่วมกิจกรรมบล็อกเชนที่เกี่ยวข้องกับการทำลายสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านั้น

การทำงานของ Proof of Burn
การทำงานของ Proof of Burn

ขั้นตอนหลักใน Proof of Burn คือการส่งสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากการใช้งานโดยไม่สามารถกู้คืนได้ (burn) โดยการส่งไปยังที่อยู่ที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือการที่จะไม่สามารถใช้งานได้อีก การทำลายสินทรัพย์นี้ทำให้สินทรัพย์นั้นหายไปจากการใช้งานและไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ ในแง่ที่สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกทำลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Proof of Burn มีมูลค่ามากกว่าส่วนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยการขุดแร่ ระบบนี้จึงสร้างความยากลำบากในการใช้งานและส่งเสริมให้ผู้ใช้งานสนใจในการทำลายสินทรัพย์เพื่อรับสิทธิ์ในระบบหรือโครงการบล็อกเชนที่เกี่ยวข้องกับ Proof of Burn นั้น

หลายโครงการบล็อกเชนใช้ Proof of Burn เป็นวิธีการสร้างความน่าสนใจและสร้างความนับถือในระบบของพวกเขา อย่างไรก็ตาม PoB ไม่ได้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์และอาจมีความซับซ้อนในการดำเนินการเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ เช่น Proof of Stake (PoS) หรือ Proof of Work (PoW) ซึ่งใช้พลังงานมากกว่าในกระบวนการตรวจสอบและการทำลายสินทรัพย์เหล่านั้น

ผู้คิดค้น Proof of Burn

ผู้คิดค้น Proof of Burn
ผู้คิดค้น Proof of Burn

Proof of Burn (PoB) ไม่มีผู้คิดค้นที่รู้จักเสมือน Proof of Work (PoW) หรือ Proof of Stake (PoS) ซึ่งมีผู้คิดค้นที่รู้จักอย่างชัดเจน เนื่องจาก PoB เป็นระบบที่ใช้ในโครงการคริปโตแต่ละโครงการมักจะนำไปใช้แบบที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการของโครงการและไม่มีผู้คิดค้นที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการคริปโตทั้งโลก

PoB มักถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมปริมาณเหรียญและใช้ในโครงการเฉพาะตามสถานการณ์ โดยไม่มีผู้คิดค้นหรือคนระดมทุนที่มีชื่อเสียงเหมือนในกรณีของ PoW หรือ PoS ที่มีผู้สร้างที่รู้จักอย่างชัดเจนเบื้องต้น

PoB มักถูกนำมาใช้เพื่อเป้าหมายที่ระบุเพื่อรักษาความสมดุลระหว่างความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบโครงการ แต่อย่างไรก็ตาม PoB เป็นหนึ่งในหลายๆ วิธีที่ใช้ในโลกคริปโตเพื่อปรับปรุงระบบการทำงานและควบคุมทรัพยากรของโครงการที่มีการสร้างเหรียญใหม่ขึ้นในตลาดแต่ละอัน แต่ไม่มีผู้คิดค้นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเหมือน PoW หรือ PoS ในทางที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในวงการคริปโตทั่วโลก

แนวคิดของ Proof of Burn

Proof of Burn (PoB) เป็นแนวคิดที่ถูกนำเสนอครั้งแรกโดย “RipplePay” ที่เป็นผู้ให้บริการกระแสเงินสดออนไลน์ในช่วงปี 2006-2007 โดยความตั้งใจคือการใช้การทำลาย (burn) ของสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อสร้างความน่าสนใจและความนับถือในระบบบล็อกเชน แนวคิดนี้เริ่มขยายออกไปในชุมชนสกุลเงินดิจิทัลและได้รับการใช้งานในโครงการและเหรียญดิจิทัลต่าง ๆ ในหลายรูปแบบตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม PoB ยังคงเป็นหนึ่งในแนวคิดที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในโลกบล็อกเชน และมีการใช้งานที่จำกัดในโครงการบล็อกเชนบางราย แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นำเสนอความส่งมอบและความนับถือในระบบบล็อกเชนแบบไม่ใช้เหรียญหรือการทำงานซับซ้อนเหมือนกับ Proof of Stake (PoS) หรือ Proof of Work (PoW) แทนการทำลายสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรับสิทธิ์ในระบบหรือโครงการบล็อกเชนที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้ว PoB ถูกใช้เพื่อสร้างความน่าสนใจและความนับถือในระบบบล็อกเชนและอาจมีใช้ในรูปแบบการแจกแจงสิทธิ์ในโครงการบล็อกเชนหรือเครือข่ายที่ไม่มีการเหรียญแบบเดิม ๆ ในการโหวตหรือตัดสินใจในระบบ โดยที่การทำลายสินทรัพย์นั้นจะส่งเสริมผู้ใช้งานให้มีส่วนร่วมในการแข่งขันหรือการให้บริการบนระบบบล็อกเชนด้วยการส่งสินทรัพย์ไปยังที่อยู่ที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้งานได้แล้ว โดยเป้าหมายคือสร้างความน่าสนใจและความนับถือในระบบโดยไม่ต้องใช้การตรวจสอบโดยใช้เหรียญหรือการทำงานซับซ้อนอื่น ๆ ในกระบวนการการตรวจสอบและการรับสิทธิ์ในระบบบล็อกเชน

ข้อดีของ Proof of Burn

ข้อดีของ Proof of Burn
ข้อดีของ Proof of Burn
  1. ความปลอดภัย: PoB ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระบบโดยการยิ่งให้ผู้ใช้ทำการเผาเหรียญ ซึ่งทำให้มีค่าทรัพย์สินเสียหายจริงๆ และไม่สามารถกู้คืนได้ นี่จึงเป็นการป้องกันการโจรกรรมและการฉ้อโกงในระบบ.
  2. การลดการพึ่งพาบนการใช้งาน: PoB ช่วยลดความพึ่งพาบนการใช้งานทรัพยากรเช่นการใช้พลังงานและความเสี่ยงจากการทำงานของผู้ใช้ ซึ่งทำให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากเกินไป.
  3. การปรับปรุงการทำงาน: PoB สามารถใช้เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบโดยการเผาเหรียญเพื่อลดปริมาณเหรียญในระบบ ทำให้มีการควบคุมปริมาณเหรียญได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  4. การกำหนดราคาในตลาด: การเผาเหรียญ PoB สามารถมีผลต่อการกำหนดราคาของเหรียญในตลาด เนื่องจากการลดปริมาณเหรียญในระบบอาจส่งผลให้มีความเข้มข้นในการซื้อขาย.

ข้อเสียของ Proof of Burn

  1. การสูญเสียทรัพย์สิน: การเผาเหรียญ PoB หมายถึงการทำลายเหรียญตัวจริง ซึ่งผู้ใช้จะไม่สามารถกู้คืนได้ นี่เป็นการสูญเสียทรัพย์สินโดยตรง.
  2. การบริหารจัดการระบบ: PoB อาจทำให้มีความซับซ้อนในการบริหารจัดการระบบและการตรวจสอบการเผาเหรียญ ซึ่งอาจต้องใช้ความระมัดระวังในกระบวนการนี้.
  3. การละเมิดความเป็นส่วนตัว: การเผาเหรียญ PoB อาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เนื่องจากการเผาเหรียญเป็นการทำรายการในบล็อกเชนและสามารถติดตามได้.
  4. ความน่าเชื่อถือ: การเผาเหรียญ PoB อาจไม่ได้รับความน่าเชื่อถือเท่ากับ PoW หรือ PoS ที่มีระบบการทำงานที่ได้รับการยอมรับและทดสอบจากการใช้งานในระยะยาว.

PoB มีข้อดีในเรื่องของความปลอดภัยและการลดความพึ่งพาบนการใช้งาน แต่มีข้อเสียเรื่องการสูญเสียทรัพย์สินและความซับซ้อนในการบริหารจัดการระบบ เราต้องพิจารณาว่า PoB เหมาะกับโครงการใดและวัตถุประสงค์ใดก่อนนำมาใช้ในโครงการของเรา

ทำไมต้องมีการ Burn เหรียญ

การ Burn เหรียญคริปโต (Cryptocurrency Burn) เป็นกระบวนการที่ถูกใช้ในโลกคริปโตเพื่อทำหลายประเภทของสิ่งต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่มักมีวัตถุประสงค์ในการควบคุมปริมาณเหรียญในการสวัสดิการความรุ่งเรืองของโครงการ นี่คือวิธีที่ Burn เหรียญคริปโตสามารถใช้ได้:

ทำไมต้องมีการ Burn เหรียญ
ทำไมต้องมีการ Burn เหรียญ
  1. ควบคุมปริมาณ: การ Burn เหรียญคริปโตสามารถช่วยลดปริมาณของเหรียญในการสวัสดิการโครงการ นี่เป็นวิธีที่สำคัญในการป้องกันการพัฒนาเหรียญเกินมากที่อาจทำให้มูลค่าลดลงด้วยปริมาณที่มากเกินไปที่ไม่สามารถรับรู้ได้หรือเพิ่มความซับซ้อนในการจัดการโครงการ
  2. การควบคุมราคา: การ Burn เหรียญคริปโตอาจถูกใช้ในการควบคุมราคาของเหรียญ โดยการลดปริมาณของเหรียญที่มีอยู่ในตลาด การลดปริมาณนี้อาจช่วยเพิ่มมูลค่าของเหรียญที่เหลืออยู่ในตลาด
  3. ความน่าสนใจในโครงการ: การ Burn เหรียญคริปโตอาจเป็นวิธีในการส่งสัญญาณให้กับตลาดและชุมชนว่าโครงการมีความน่าสนใจและมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติการในระยะยาว
  4. การป้องกันการปลอมแปลงและการฉ้อฉล: การ Burn เหรียญอาจถูกใช้ในกระบวนการที่มีการควบคุมการทำธุรกรรมและการทำลายเหรียญที่ถูกละเมิด นี่เป็นวิธีในการป้องกันการฉ้อฉลและการปลอมแปลง
  5. การสร้างสัญญาอัจฉริยะ: การ Burn เหรียญอาจเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาอัจฉริยะที่กำหนดเงื่อนไขและกฎระเบียบการทำธุรกรรมแบบที่สามารถควบคุมและติดตามได้โดยอัตโนมัติ

การ Burn เหรียญคริปโตอาจมีวัตถุประสงค์และผลกระทบต่าง ๆ ต่อโครงการและตลาด และมักใช้ในบางโครงการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการทรัพยากรและควบคุมปริมาณเหรียญที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินงานของโครงการนั้น ๆ

เหรียญที่ถูก Burn มากที่สุดในโลกคริปโต

เหรียญที่ถูก Burn มากที่สุดในโลกคริปโตคือ “Burned” Nyan Cat (NYAN) เหรียญเล็ก ๆ นี้มีบิตคอยน์มูลค่าไม่มากนักแต่มีประวัติยาวนานของการทำลายเหรียญอย่างรวดเร็วที่ถูกเผาไหม้อย่างสม่ำเสมอโดยที่ไม่มีการเก็บรักษาค่าเหรียญที่ถูกทำลายเอาไว้ เหรียญ NYAN ถูกสร้างขึ้นในปี 2014 และมีจำนวนจำกัดเพียง 337,000 เหรียญเท่านั้น

การทำลายเหรียญหรือการเผาไหม้เหรียญนั้นเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นในโครงการและเหรียญดิจิทัลต่าง ๆ ในหลายประเทศ บางครั้งมันเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการจัดการการเสนอขายหรือการควบคุมการเหรียญที่จำกัด ในบางกรณีการเผาไหม้เหรียญอาจเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการลบข้อมูลที่อาจถูกทำไปในการเผาไหม้เหรียญนั้นเพื่อทำให้ข้อมูลสามารถเรียกใช้ไม่ได้ การเผาไหม้เหรียญอาจมีเป้าหมายทางการเงินหรือทางสัญญาอัจฉริยะเพื่อควบคุมสถานะการจ่ายเงินหรือการใช้งานในโครงการบล็อกเชนเฉพาะของตนเอง

อย่างไรก็ดี เหรียญที่ถูก Burn จะไม่สามารถกู้คืนได้และจะถูกเผาไหม้ถาวร ซึ่งอาจทำให้ปริมาณเหรียญที่เหลือน้อยลงและมีผลต่อการค้าและความสำเร็จของโครงการบล็อกเชนนั้น ๆ ในระยะยาว การทำลายหรือการเผาไหม้เหรียญอาจเป็นการส่งสัญญาณให้กับตลาดเกี่ยวกับความหวังในความน่าสนใจและความนับถือในโครงการบล็อกเชนนั้น ๆ แต่อย่างไรก็ดี ผลของการทำลายเหรียญมีการแบ่งแยกขึ้นกับโครงการและวัตถุประสงค์ของการเผาไหม้เหรียญนั้น ๆ